อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ เริ่มต้นยังไงดี? เคล็ดลับง่ายๆ ที่พ่อแม่ทำได้
อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ เริ่มต้นยังไงดี?
อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ เริ่มต้นยังไงดี? เคล็ดลับง่ายๆ เริ่มได้จากที่บ้าน
ภาษาอังกฤษกลายเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยเปิดโอกาสในชีวิตให้กับลูกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อ การทำงาน หรือการสื่อสารกับคนทั่วโลก หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษ สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นให้เร็วและทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก วันนี้เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของลูก ไม่ว่าจะเป็นคำศัพท์ การอ่าน การฟัง การพูด และการเรียนไวยากรณ์มาฝากกันค่ะ
1. เสริมคลังคำศัพท์: พื้นฐานสำคัญของทุกทักษะ
การมีคลังคำศัพท์ที่หลากหลายคือกุญแจสำคัญในการใช้ภาษาอังกฤษอย่างมั่นใจ ยิ่งลูกมีคำศัพท์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งฟัง พูด อ่าน และเขียนได้ดีขึ้น
วิธีเพิ่มคำศัพท์ให้ลูก
1. ใช้แฟลชการ์ด (Flashcards)
แฟลชการ์ดเป็นตัวช่วยที่ดีมากในการเรียนรู้คำศัพท์หรือสร้างคลังคำศัพท์ใหม่ๆ สำหรับเด็กๆ เพราะเด็กๆ ชอบภาพสีสันสดใส ลองทำบัตรคำศัพท์ด้วยตัวเองหรือใช้แอปพลิเคชันแฟลชการ์ดดิจิทัลที่มีเกมสนุกๆ
ตัวอย่างกิจกรรม:
- ให้ลูกจับคู่คำศัพท์กับภาพ
- เล่นเกมทายคำ เช่น ยกบัตรคำขึ้นมาแล้วให้ลูกบอกความหมาย
2. Phonics: พื้นฐานการออกเสียง
Phonics คือการฝึกให้ลูกเข้าใจเสียงของตัวอักษร เช่น A ออกเสียง “แอะ” B ออกเสียง “บึ” การฝึก Phonics จะช่วยให้ลูกอ่านออกเสียงได้ถูกต้อง
กิจกรรม Phonics:
- ร้องเพลง Phonics เช่น ABC Song หรือ Jolly Phonics
- ให้ลูกฝึกเชื่อมเสียงกับตัวอักษร เช่น “B is for Ball, C is for Cat”
3. เรียนรู้ Sight Words
Sight Words คือคำที่เด็กๆ ควรจำได้ทันที เช่น the, and, is เพราะเป็นคำที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
วิธีฝึก Sight Words:
- สอน Sight Words ผ่านแฟลชการ์ดหรือบัตรคำศัพท์
- ทบทวน Sight Words ด้วยแบบฝึกหัดที่มีรูปแบบน่าสนใจ เพื่อช่วยให้เด็กๆ จำ Sight Words ได้ง่ายขึ้น
- ชี้คำในหนังสือให้อ่านหรือเล่นเกมหาคำที่ซ่อนอยู่
- ให้ลูกเขียนคำเหล่านี้บนกระดานหรือกระดาษ
2. พัฒนาทักษะการฟังและพูดให้ลูกเก่งขึ้น
การฟังและพูดเป็นทักษะที่เด็กเรียนรู้ได้เร็วที่สุด การสร้างสภาพแวดล้อมที่มีภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันจะช่วยให้ลูกซึมซับภาษาได้ง่าย
ฝึกทักษะการฟัง
1. เปิดเพลงหรือการ์ตูนภาษาอังกฤษ
เลือกเพลงที่เด็กๆ ชอบ เช่น Baby Shark, Twinkle Twinkle Little Star หรือการ์ตูนอย่าง Peppa Pig
2. ฟังนิทานภาษาอังกฤษ
อ่านนิทานให้ลูกฟังหรือใช้แอปที่มีนิทานเสียงภาษาอังกฤษ และให้ลูกเลียนเสียงตาม
ฝึกทักษะการพูด
1. ถามคำถามง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน
- “What do you want to eat?” (อยากกินอะไร?)
- “How are you today?” (วันนี้เป็นยังไงบ้าง?)
2. พูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
ใช้ประโยคง่ายๆ เช่น “Good morning!” หรือ “Time to eat!” เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับภาษา
3. ส่งเสริมการอ่าน: ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เล็ก
การอ่านช่วยเพิ่มคำศัพท์และความเข้าใจในภาษาอังกฤษได้ดี ลองหาหนังสือที่เหมาะกับวัยและความสนใจของลูก
เลือกหนังสือให้เหมาะกับวัย
1. สำหรับเด็กเล็ก (2-5 ขวบ): เลือกหนังสือภาพหรือหนังสือที่มีคำศัพท์ง่ายๆ เช่น The Very Hungry Caterpillar หรือ Brown Bear, Brown Bear
2. สำหรับเด็กโต (6 ขวบขึ้นไป): เลือกหนังสือที่มีเรื่องราวสนุกๆ เช่น Dr. Seuss หรือ Magic Tree House
เคล็ดลับให้ลูกสนุกกับการอ่าน
- อ่านหนังสือด้วยกันและชี้คำศัพท์ให้ลูกดู
- ตั้งเวลาอ่านหนังสือทุกวัน เช่น 10-15 นาที ก่อนนอน
4. ไวยากรณ์ (Grammar) แบบไม่เครียด
ไวยากรณ์หรือ Grammar อาจดูยากสำหรับเด็กเล็ก แต่ถ้าสอนแบบสนุกๆ ก็จะช่วยให้เด็กเข้าใจง่ายขึ้น
วิธีสอน Grammar แบบง่ายๆ
1. สอนโครงสร้างประโยคง่ายๆ เช่น “I am…”, “You are…”
2. เล่นเกมเติมคำในประโยค เช่น I am ___ (happy/sad) หรือ She is ___ (running/playing)
3. ฝึกให้เด็กๆ ทำแบบฝึกหัด Grammar โดยเริ่มปูพื้นฐานจากง่ายไปหายากตามลำดับ
5. แบบฝึกหัดและกิจกรรมเสริมภาษาอังกฤษ
การทำแบบฝึกหัดช่วยให้ลูกทบทวนสิ่งที่เรียนรู้ และเพิ่มความมั่นใจในการใช้ภาษา
กิจกรรมที่สนุกและช่วยพัฒนาภาษา
- เกมจับคู่คำศัพท์กับภาพ
- เกม Hangman หรือ Word Search เพื่อหาคำศัพท์
- เติมคำในช่องว่าง เช่น I have a ___ (cat/dog).
สรุป
การทำให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยาก หากพ่อแม่สร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้ และทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก การเริ่มต้นจากคำศัพท์ การฟัง การพูด การอ่าน และแบบฝึกหัดที่เหมาะสม จะช่วยให้ลูกพัฒนาทักษะได้อย่างมั่นใจ อย่าลืมชื่นชมลูกเมื่อเขาทำได้ดี เพราะกำลังใจจากพ่อแม่คือสิ่งสำคัญที่สุดในการเรียนรู้ค่ะ 😊