สรุปแกรมม่าภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย – Pronouns คืออะไร มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ใช้ยังไง อธิบายครบทุกคำถามในโพสต์เดียว
สรุปแกรมม่า เข้าใจง่าย by LEARNbitat
โพสต์นี้ขอแชร์เรื่อง Pronouns หรือ คำสรรพนาม ในภาษาอังกฤษค่ะ
หนึ่งในกลุ่มคำที่ใช้บ่อยมากถึงมากที่สุดในภาษาอังกฤษก็คงจะหนีไม่พ้น Pronouns หรือคำสรรพนาม ซึ่งช่วยลดความซ้ำซ้อนในประโยค ทำให้ประโยคดูกระชับและน่าฟัง บทความนี้ LEARNbitat จะมาอธิบายเกี่ยวกับ Pronouns หรือคำสรรพนามในภาษาอังกฤษแบบละเอียด พร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่าย ถ้าพร้อมแล้ว ไปเริ่มกันเลยค่ะ
Pronouns คืออะไร?
Pronouns คือคำที่ใช้แทนคำนาม (Nouns) เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้คำนามซ้ำๆ หลายครั้งในประโยค ตัวอย่างเช่น
แทนที่จะพูดว่า:
“Anna went to Anna’s house because Anna forgot Anna’s bag.”
เราใช้ Pronouns แทนได้เป็น:
“Anna went to her house because she forgot her bag.”
จากตัวอย่างนี้ จะเห็นได้ว่าการใช้ Pronouns แทนคำนามช่วยให้ประโยคกระชับและสละสลวยขึ้น
Pronouns มีกี่ชนิด อะไรบ้าง
หัวข้อนี้จะพามาทำความรู้จักกับประเภทของ Pronouns กันนะคะ ว่าจริงๆ แล้ว Pronouns มีทั้งหมดกี่ชนิด และมีอะไรบ้าง
1. Personal Pronouns (สรรพนามบุคคล)
ใช้แทนบุคคล สัตว์ หรือสิ่งของ แบ่งเป็น
- Subject Pronouns: I, you, he, she, it, we, they (ใช้เป็นประธาน)
ตัวอย่าง: She is a doctor.
- Object Pronouns: me, you, him, her, it, us, them (ใช้เป็นกรรม)
ตัวอย่าง: I saw him at the park.
▶️ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Personal Pronouns ที่นี่
2. Possessive Pronouns (สรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ)
แสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม โดยไม่ต้องตามด้วยคำนาม
- Possessive Pronouns: mine, yours, his, hers, its, ours, theirs
- ตัวอย่าง: The red car is mine.
▶️ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Possessive Pronouns ที่นี่
3. Reflexive Pronouns (สรรพนามสะท้อนกลับ)
ใช้เมื่อต้องการเน้นว่าประธานของประโยคทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยตัวเอง
- Reflexive Pronouns: myself, yourself, himself, herself, itself, ourselves, yourselves, themselves
- ตัวอย่างในประโยค: She cooked dinner by herself.
▶️ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Reflexive Pronouns ที่นี่
4. Demonstrative Pronouns (สรรพนามชี้เฉพาะ)
ใช้ชี้เฉพาะสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยแบ่งเป็นใกล้ (this, these) และไกล (that, those)
- Demonstrative Pronouns: this, that, these, those
- ตัวอย่าง: This is my book. Those are yours.
▶️ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Demonstrative Pronouns ที่นี่
5. Interrogative Pronouns (สรรพนามคำถาม)
ใช้สำหรับตั้งคำถามในประโยค
- Interrogative Pronouns: who, whom, whose, what, which, etc.
- ตัวอย่าง: Who is knocking on the door?
▶️ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Interrogative Pronouns ที่นี่
6. Relative Pronouns (สรรพนามเชื่อมความ)
ใช้เชื่อมประโยคที่มีความสัมพันธ์กัน เช่นการขยายความคำนาม
- Relative Pronouns: who, whom, whose, that, which, etc.
- ตัวอย่าง: The boy who is wearing a red shirt is my brother.
▶️ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Relative Pronouns ที่นี่
7. Indefinite Pronouns (สรรพนามไม่เจาะจง)
ใช้พูดถึงสิ่งที่ไม่เฉพาะเจาะจง เช่น บุคคลหรือสิ่งของที่ไม่ระบุแน่ชัด
- Indefinite Pronouns: someone, anyone, everyone, no one, nothing, etc.
- ตัวอย่าง: Someone left their bag here.
▶️ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Indefinite Pronouns ที่นี่
เคล็ดลับการเรียน Pronouns ให้เข้าใจ
1.แต่งประโยคง่ายๆ
ให้เด็กๆ ฝึกแต่งประโยคโดยใช้ Pronouns เช่น
- I am happy today.
- She is reading a book.
- This is mine.
2. ฝึกทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ
ฝึกทำแบบฝึกหัดภาษาอังกฤษที่มีโจทย์หลากหลายรูปแบบ เช่น การจับคู่คำ การเลือก Pronouns ที่ถูกต้องในประโยค หรือการจัดประเภทคำสรรพนาม การฝึกทำแบบฝึกหัดบ่อยๆ จะช่วยให้เด็กๆ เข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องค่ะ
👉 คลิกที่นี่เพื่อดูแบบฝึกหัด Pronouns
โดยสรุปแล้ว Pronouns เป็นคำที่สำคัญในภาษาอังกฤษ เพราะช่วยลดความซ้ำซ้อนและทำให้การสื่อสารกระชับขึ้น การที่เราเข้าใจประเภทต่างๆ ของ Pronouns และการฝึกใช้คำเหล่านี้ในประโยคบ่อยๆ จะช่วยพัฒนาทักษะการพูดและการเขียนได้อย่างมากและช่วยให้เราใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง
รู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารอช้านะคะ เริ่มฝึกการใช้ Pronouns ในชีวิตประจำวัน เช่น พูดถึงสิ่งรอบๆ ตัว ฝึกแต่งประโยค หรือตั้งคำถามง่ายๆ ทำแบบนี้บ่อยๆ รับรองว่าต้องใช้ได้ถูกต้องอย่างแน่นอนค่ะ